Latest News

วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

แม่ยังไงก็คือแม่!!!โซเซียลแห่แชร์.. พระลาวยอดกตัญญู ยอมอาบัติเดิน 5 กม. มาดูแลแม่ป่วย อ่านแล้วน้ำกลั้นนน้ำตาไม่อยู่ (ชมคลิป)

loading...


โลกออนไลน์กระหน่ำกดไลค์ กดแชร์เป็นจำนวน 31,436 ครั้ง ดูคลิปล้านกว่าคน กรณีพระรูปหนึ่งโพสต์ภาพและคลิปขณะดูแลแม่ป่วยด้วยความรักในเฟซบุ๊กชื่อ “หลวงพี่ยาน้อย หัวใจพุทธ” พร้อมเขียนข้อความบรรยาย

“แม่...ยังไงก็คือแม่. แม่ แม้จะไม่ใช่คนที่ดีที่สุด แต่แม่คือคนที่รักเราที่สุด”...

จากประโยคซึ้งกินใจดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นยกย่องสรรเสริญนับพันข้อความ และอยากรู้ว่าพระยอดกตัญญูรูปนี้คือใคร และการแตะต้องตัวผู้หญิง ซึ่งเป็นข้อห้ามในพระวินัยของสงฆ์ผิดกฎหรือไม่


ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ติดต่อพูดคุยเพื่อไขข้อสงสัย ทราบชื่อว่า “พระสุลิยา กาติยาลาด” หรือ “พระยาน้อย” แห่งวัดท่งป่ง เมืองสีโคดตะบอง แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ต้องเดินจากวัดร่วม 5 กิโลฯ กลับมาดูแลแม่ที่บ้าน

“แม่ของหลวงพี่อายุ 49 ปี ป่วยหลายโรค เป็นความดัน เป็นเบาหวาน ป่วยมานานหลายปีแล้ว บางครั้งหากอาการหนักจะทำอะไรไม่ได้เลย ต้องนอนอย่างเดียวเกือบ 4-5 วัน โยมพ่อก็ป่วยเหมือนกัน ปกติพี่สาวกับน้องชายจะเป็นคนผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล เหตุการณ์ในคลิป แม่เกิดเป็นลมกะทันหัน ตอนนั้นพี่สาวกับน้องชายไม่อยู่บ้าน หลวงพี่จึงไปดูแลแทน ซึ่งปกติหลวงพี่ทำแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว” พระสุลิยาเล่าถึงเหตุการณ์ในคลิป


พร้อมเผยอีกว่าขณะดูแลโยมแม่ โยมพ่อ พระสุลิยาได้นำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ศึกษามาเป็นธรรมทานให้พ่อแม่ให้รักษาศีล สวนมนต์เป็นประจำ เพื่อจะได้มีกำลังใจและมีแรงสู้กับชะตากรรมของตัวเอง และบางครั้งหสกบิณฑบาตเสร็จก็มักนำของกินมาให้พ่อ แม่ ข้าวก้นบาตรที่เหลือก็ให้สุนัขที่ถูกนำมาปล่อยที่บ้าน 4-5 ตัวได้กิน

กับข้อสงสัยของชาวเน็ตว่าพระสงฆ์มาจับต้องผู้หญิงอาบัติหรือไม่...พระสุลิยาตอบข้อซักถามว่าอาบัติ แต่เป็นการอาบัติที่อนุโลมได้ เนื่องจากทำด้วยความเมตตา ไม่ได้ทำด้วยกามหรือราคะ อีกทั้งการที่ดูแล บิดร มารดา พระพุทธเจ้าจัดว่าเป็นมงคลอันประเสริฐ เป็นหนึ่งในในมงคล 38 ประการ

“ในพระวินัยบัญญัติไว้ว่าอาบัติ แต่เป็นอาบัติที่เบา อนุโลมได้ ไม่ต้องถึงขั้นอาบัติปาราชิก เพราะการสัมผัสต้องกายบิดร มารดานั้นทำด้วยความเมตตาและห่วงใย ไม่ได้ทำด้วยกามหรือราคะ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ดีของลูกทุกคนควรทำ เพราะถ้าไม่มีโยมแม่ก็ไม่มีหลวงพี่” พระสุลิยาให้แง่คิดหลักธรรม
loading...



จากการโพสต์ในเฟซบุ๊กโดยใช้ภาษาไทยจนชาวเน็ตเข้าใจว่าเป็นคนไทย พระสุลิยาชี้แจงว่าโยมแม่เป็นคนเวียงจันทน์ มีญาติเป็นคนไทยใน จ.กาฬสินธุ์ ส่วนโยมพ่อเป็นคนสะหวันนะเขต ประเทศลาว ตนฝึกพูด อ่าน เขียนจากมีเพื่อนสนิทคนไทยแล้วชินไปเอง

“ตอนหลวงพี่เป็นเด็ก ฝึกพูดไทยโดยจำสำเนียงพูดจากเพื่อนคนไทย ยังเขียนไม่ได้ อ่านไม่ออก จนอายุ 10 กว่า เริ่มอ่านไทยออก จึงหาหนังสือธรรมะของไทยมาอ่าน แต่การพิมพ์ หรือเขียนภาษาไทยได้บางตัวอักษรเท่านั้น บางทีมีถูกบ้าง ผิดบ้าง”


ป้อนข้าวโยมแม่ยามป่วย

สำหรับกรณีพระสงฆ์เล่นสื่อโซเชียลพระสุลิยาซึ่งบวชเพราะฐานะยากจนและอยากศึกษาในรสพระธรรมเปิดเผยว่าในพระวินัยของลาวไม่ได้บัญญัติห้ามเล่นหากใช้ในทางที่ดีและเหมาะสม ถือว่าไม่ผิด ไม่ต้องจับสึก เช่น เผยแผ่ธรรมมะ อีกทั้งกล่าวทิ้งท้ายให้หลักธรรมนำไปใช้ในชีวิต

“คนเป็นลูกควรทำดีกับพ่อแม่ เพราะการที่กตัญญูกับบิดามารดาเป็นสิ่งที่ประเสิรฐ มีแต่คนชื่นชม คนเป็นลูกเองก็ได้บุญจากพระอรหันต์ คือ พ่อแม่ของตัวเอง เพราะทำดีเลี้ยงดูพ่อแม่ คือหน้าที่ของลูกทุกคน 


หลวงพี่ลงรูปและคลิปเพื่อให้คำสอนกับเพื่อนในเฟซ ไม่คิดว่าจะมีการแชร์ต่อ ซึ่งหลวงพี่ก็ขออนุโมทนาด้วย อยากให้คนได้ดูแล้วมีกำลังใจ ให้ทำดีกับพ่อแม่ บางคนอาจพูดไม่ดี หรือทำไม่ดีกับพ่อแม่ หลวงพี่ก็อยากให้หันมาดูแลพ่อแม่บา้ง ให้พ่อแม่มีความสุข คนที่อยู่ไกลกันควรโทรหากันให้พ่อแม่ชื่นใจบ้างก็ยังดี แต่เราต้องดูแลด้วยความเมตตาจริงๆ ไม่ใช่แค่คำพูด ต้องทำด้วย”

loading...
ที่มา:https://www.thairath.co.th/content/1012974

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Recent Post