loading...
จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพที่เผยให้เห็นการไลฟ์สดของหญิงสาวที่มีการสวมชุด ม.ปลาย ผ่านทางเว็บไซต์หนึ่ง ที่มีรูปแบบคล้ายกับเฟซบุ๊ก ซึ่งคนที่ไลฟ์สดมีการใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าที่มีโลโก้แปะอยู่
ล่าสุด (24 ก.ค.) น้องน้ำอ้อย (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนได้รับการติดต่อว่าจ้างให้ไลฟ์สดผ่านเว็บไซต์ฟุตบอลเว็บหนึ่ง ซึ่งติดต่อมาทางอินบ็อกซ์ข้อความ ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว บอกว่าด้วยหน้าตา และความใสของตน น่าจะมีคนมาดูเยอะ โดยเสนอค่าจ้าง 2 หมื่นบาท ยอมรับว่าตนอยากมีรายได้ และเห็นเงินจำนวนเยอะ จึงรับปากเพื่อรับงานนี้ โดยไม่ทราบว่าจะเป็นการไลฟ์จับหน้าอก เพราะถือว่างานนี้เป็นครั้งแรกที่ทำ
น้องน้ำอ้อย เปิดเผยอีกว่า คลิปที่แชร์กันในโซเชียลขณะนี้ ตนได้ไลฟ์สดไปเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาข ขณะนั้นผู้ที่จ้างงานได้โทรมาหา เพื่อไปคุยเรื่องงาน จึงได้เดินทางเข้าไปคุยที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนแรกก็กลัว แต่เห็นว่ามีทีมงานในห้อง 4-5 คน และมีผู้หญิงจึงอุ่นใจ จากนั้นทางทีมงานก็บอกให้เริ่มงานเลย ตอนนั้นก็ตกใจเหมือนกัน ซึ่งเขาก็ไม่เคยบอกว่าต้องมีการจับหน้าอก แต่ทีมงานกล่าวว่าผู้ชายที่จับหน้าอกตน เป็นเกย์ พร้อมให้ไลฟ์สดเว็บบอล ซึ่งเว็บดังกล่าวมีแต่ชาวต่างชาติ และคนไทยที่เล่นบอลเท่านั้นที่เข้ามาดู ยอมรับว่าอยากได้เงินจึงตกลง ซึ่งการไลฟ์ก็มีสคริปให้พูด และขอผ้าปิดอักษรย่อของโรงเรียน เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงโรงเรียน
loading...
น้ำอ้อย เล่าว่า ตอนไลฟ์สด ทีมงานจะคอยกำกับภาพ หากไม่เป็นไปตามบท ก็จะเริ่มไลฟ์ใหม่ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง และได้รับค่าตอบแทน 2 หมื่นบาท ยืนยันว่าในคลิปที่ปรากฏแค่จับหน้าอก ไม่ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด สำหรับคลิปดังกล่าว น้ำอ้อย กล่าวว่า เป็นคลิปที่ทีมงานคัดทิ้ง คาดว่า คงเป็นเพราะมีคนเข้าไปดูตอนไลฟ์สด แล้วอัดเอาไว้ จึงนำมาโพสต์จนกลายเป็นในโซเชียล เมื่อทางครอบครัวทราบเรื่องแล้วพร้อมตำหนิตน ที่ไม่ยอมบอกว่าเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงได้ขอโทษครอบครัว
อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะขอโทษโรงเรียนด้วย เพราะกระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และขอรับผิดคนเดียว ไม่อยากให้ชาวโซเชียลต่อว่า หรือพาดพิงไปถึงครอบครัว
ขณะที่ ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความชื่อดัง ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นยังไม่เข้าข่ายในเรื่องของลามกอนาจาร เพราะแต่งกายมิดชิด และผู้ชายที่นำมือมาจับหน้าอก หากเจ้าตัว คือผู้หญิงที่ใส่ชุดนักเรียน ไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อเอาผิดในเรื่องของการอนาจาร ทางกฎหมายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และเจ้าของเฟซบุ๊ก ดังกล่าว ก็ไม่มีความผิดในทางกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งทางทนายอยากให้ตรวจสอบให้ละเอียด ว่า เป็นนักเรียนโรงเรียนดังกล่าวจริงหรือไม่ กรณีหากไม่ใช่นักเรียนของโรงเรียนที่ปรากฏอักษรย่อ ทางเจ้าของเฟซบุ๊ก , หญิงสาว และชายหนุ่มที่ปรากฏในคลิป จะมีความผิดร่วมกัน ฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์
loading...
ที่มา:http://www.amarintv.com/news-update/news-1837/64977/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น