Latest News

วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

สรุปเหตุการณ์ทั้งหมดคดีสะเทือนขวัญ “บังฟัด” นำทีมคนร้ายบุก “ฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้านกระบี่” เสียชีวิต 8 ศพ บาดเจ็บ 3 ราย

loading...


สรุปเหตุการณ์ทั้งหมด “คดีฆ่ายกครัว” นายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 8 ศพ และบาดเจ็บ 3 ราย


โดยตำรวจชุดสืบสวนใช้เวลา 5 วัน ในการแกะรอยและจับกุม นายซูรีฟัด บ้านนบวงศ์สกุล หรือ “บังฟัด” นายทุนเงินกู้ พร้อมเมีย และพรรคพวก รวมทั้งหมด 8 คน


วันที่ 10 ก.ค.2560


ครอบครัวของนายวรยุทธ ถูกแก๊งนักฆ่าใส่ชุดลายพรางยิงเสียชีวิต รวม 8 ศพ และบาดเจ็บ 3 คน ภายในบ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยคนร้ายนำรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส ของภรรยานายวรยุทธผู้ตายไปด้วย


ช่วงกลางดึกของวันที่ 15 ก.ค.2560


พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. บินด่วนไป จ.กระบี่ เพื่อสอบปากคำผู้ต้องสงสัยด้วยตัวเอง ที่ค่าย ร.15 พัน 1 อ.คลองท่อม จ.กระบี่



เวลา 22.30 น. ของวันที่ 15 ก.ค.2560


พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช นำรถยนต์คันหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้บริเวณบ้านนาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เข้าไปเก็บไว้ภายในค่าย ร.15 พัน. 1 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยนำใส่รถสไลด์ และมีผ้าใบปิดบังอย่างมิดชิด ซึ่งจากการสังเกตพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถยนต์คันใหญ่ คล้ายรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ

เวลา 23.20 น. ของวันที่ 15 ก.ค.2560


พล.ต.อ.จักรทิพย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบริเวณหน้าค่ายทหารว่า เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาออกจากค่ายทหาร ไปค้นหาหลักฐานชิ้นสำคัญในพื้นที่ ต.ตากแดด อ.เมือง จ.พังงา


เวลา 03.30 น. ของวันที่ 16 ก.ค.2560


พล.ต.อ.จักรทิพย์ นำตัวนายประจักษ์ บุญทอย อายุ 37 ปี ชาว จ.พังงา 1 ใน 8 ผู้ต้องหา ซึ่งสวมหมวกไหมพรม ไปที่สวนปาล์มน้ำมันบ้านในหงบ หมู่ 3 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.พังง


ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มคนร้ายนำรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส ทะเบียน กค 533 กระบี่ ของภรรยานายวรยุทธไปเผาทำลายหลักฐาน พบรถเผาเหลือแต่ซาก และถูกถอดทะเบียนออก ส่วนภายในพบเสื้อลายพรางทหาร


จากนั้นเดินทางไปที่บ้านของนายประจักษ์ ซึ่งตั้งอยู่กลางสวนยางพารา เพื่อชี้จุดที่นำของอย่างอื่นไปฝังอำพราง ซึ่งห่างจากจุดเผารถประมาณ 30 เมตร


จุดที่ 1 พบซิมการ์ด และเมมโมรี่การ์ด 5 อัน / จุดที่ 2 พบกุญแจมือ และป้ายทะเบียนรถ / จุดที่ 3 พบอาวุธปืนลูกโม่ 3 กระบอก, ปืนแมกกาซีน 1 กระบอก, เครื่องกระสุน 30 นัด และบัตรประชาชนของนางอัญชลี น้องเมียผู้ใหญ่บ้านที่รอดชีวิต / จุดที่ 4 พบปลอกกระสุน / จุดที่ 5 พบอาวุธลักษณะคล้ายกับสิ่งเทียมอาวุธปืนอาก้า และปืนกล


ช่วงเช้าของวันที่ 16 ก.ค.2560


พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 6 บ้านท่าคลอง ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านที่ “บังฟัด” รับจำนำไว้ และใช้ในการวางแผนก่อนก่อเหตุ พบหัวกระสุนไม่ทราบขนาด 1 หัว และก้นบุหรี่ที่ทิ้งไว้บริเวณหลังบ้าน จึงเก็บลายนิ้วมือแฝงนำไปเปรียบเทียบกับผู้ต้องหา


ช่วงบ่ายของวันที่ 16 ก.ค.2560


พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. นำตัว 1 ใน 8 ผู้ต้องหาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เดินทางไปบ้านเลขที่ 88 หมู่ 13 ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของนายพงษ์ศักดิ์ สังข์โชติ หรือแสง อายุ 37 ปี ที่รับสารภาพว่า นำปืนที่ใช้ก่อเหตุมาฝังไว้ที่บ้าน


บริเวณป่าละเมาะหลังบ้าน พบปืนลูกซองยาว 5 นัด 1 กระบอก / ปืนลูกซองเดี่ยว 1 กระบอก / กระสุนปืนลูกซองจำนวนหนึ่ง / ปืนบีบีกัน 2 กระบอก และห่างไป 30 เมตร พบกองขี้เถ้าที่จุดไฟเผาอุปกรณ์กล้องวงจรปิดซึ่งถอดมาจากบ้านเกิดเหตุ เหลือเพียงชิ้นส่วนบางอย่าง


ต่อมา มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมทีมสังหารได้ครบทั้ง 8 คน คือ นายซูรีฟัด บ้านนบวงศ์สกุล หรือ “บังฟัด” อายุ 41 ปี ชาว จ.กระบี่ มีอาชีพเป็นนายทุนเงินกู้ รับจำนำรถ และที่ดิน ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งก่อเหตุ ถูกรวบตัวได้ขณะหนีไปกบดานที่ จ.ภูเก็ต


ส่วนผู้ต้องหาอีก 7 คน เป็นชาว จ.ระนอง 2 คน / จ.ภูเก็ต 2 คน / จ.พังงา 2 คน และ จ.นครศรีธรรมราชอีก 1 คน ในจำนวนนี้มีหญิงสาวซึ่งเป็นภรรยาของบังฟัดร่วมอยู่ด้วย


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายทั้งหมดถูก “บังฟัด” ชักชวนให้มาทวงหนี้จากผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ หลังมีปัญหาขัดแย้งกัน จึงได้ชักชวนพรรคพวก มานัดหมายวางแผนกันเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2560 ที่ ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ พร้อมเช่ารถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ที่วิ่งบริการรับส่งนักท่องเที่ยวอยู่ในสนามบินกระบี่ ให้มารับ
loading...
จากนั้นก็เดินทางไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ ทำทีเป็นกลุ่มทหารขอตรวจค้น แต่ไม่พบผู้ใหญ่บ้าน จึงนั่งรอและจับคนในบ้านเอาไว้ รวมถึงญาติ ๆ ที่เดินเข้าไปในบ้าน กระทั่งประมาณ 2 ทุ่ม ผู้ใหญ่บ้านกลับมา จึงก่อเหตุดังกล่าว


ทั้งนี้ ก่อนลงมือ “บังฟัด” มีการวางแผนจัดฉากสร้างเรื่อง ให้ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนลงมือฆ่าตัวตายยกครัว เนื่องจากเครียดปัญหาเรื่องหนี้สิน โดยระหว่างควบคุมตัว ก็บังคับให้ผู้ใหญ่โทรศัพท์ไปยืมเงินเพื่อนสนิท 5 แสนบาท และให้โอนเข้าบัญชีผู้ใหญ่ เพื่อสร้างเรื่องว่าผู้ใหญ่เดือดร้อนเรื่องเงินจริงๆ อีกทั้งเตรียมเอาบัตรเอทีเอ็มของผู้ใหญ่บัติไปกดเงิน แต่ผู้ใหญ่ไม่สามารถหาเงิน 5 แสนบาทมาให้ได้


ส่วนรถเก๋งโตโยต้า ยาริส ของผู้ตายที่เอาไปด้วยนั้น ได้บังคับให้ผู้ใหญ่บ้านเซ็นโอนลอย เพื่อให้ดูสอดคล้องกับการกู้ยืมเงิน ก่อนจะนำรถไปเผาในพื้นที่ จ.พังงา

ด้านปืนที่ใช้ในการก่อเหตุข่มขู่คนในบ้าน เป็นปืนบีบีกันทั้งหมด ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะรื้อค้นเอาปืนจริงของผู้ใหญ่บ้านมาก่อเหตุยิง


เวลา 16.40 น. ของวันที่ 16 ก.ค.2560


พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แถลงข่าวถึงรายละเอียดคดีว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 5 วัน ในการติดตามจับกุมคนร้ายได้แล้ว 8 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 1 คน และยังมีผู้เกี่ยวข้องอีก 2-3 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุ


โดยแรงจูงใจในการสังหารน่าจะเกิดจากความขัดแย้ง 2 กรณี


1.สาเหตุของการสังหารเกิดจากความขัดแย้งเรื่องการจำนองที่ดิน


2.คู่กรณีคนตายกับกลุ่มคนร้ายเคยมีปากเสียงกัน โดยเฉพาะเรื่องที่ดินมีการฟ้องร้องขึ้นศาลหลายครั้งแล้ว มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท นายวรยุทธผู้ใหญ่บ้านเอาที่ดินไปฝากจำนองไว้กับกลุ่มคนร้าย


ผู้ต้องหาตั้งใจมาฆ่า เพราะเคยเตรียมการก่อเหตุมาแล้วถึง 3 ครั้ง ตั้งแต่ปลายปี 2559


ก่อนหน้านี้เคยมีปากเสียงกันมาก่อน อาจมีการท้าทายกันไปมา ทั้งสองฝ่ายมีการขู่ฆ่าล้างโคตรกันมาก่อน เมื่ออีกฝ่ายมีโอกาสเลยลงมือฆ่า


สำหรับบังฟัดถือว่าเป็นบุคคลสำคัญของคดีนี้ เป็นผู้ลงมือคนเดียว และได้ชักชวนพรรคพวกมาร่วมกันทวงหนี้นอกระบบครั้งละ 1,000 บาท


กรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจากผู้ใหญ่บ้านไปฟ้องร้อง เรื่องที่ดินที่นำไปจำนองกับบังฟัด แต่บังฟัดกลับนำไปขาย ทำให้ไม่สามารถนำมาคืนได้ แม้จะคืนเงินไปให้แล้ว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้


พฤติกรรมการก่อเหตุคือให้ทีมงานแต่งกายคล้ายทหาร เพื่อข่มขู่ครอบครัวผู้ตาย แต่มีความตั้งใจไปฆ่าทั้งครอบครัว มีการวางแผนให้มองว่าผู้ใหญ่บ้านมีปัญหาครอบครัว แล้วลั่นไกสังหารคนในครอบครัว


กลุ่มคนร้ายไม่ได้อยู่ในซุ้มมือปืน เป็นเพียงอดีต รปภ. ไม่ใช่ทั้งตำรวจหรือทหาร และไม่ได้เชื่อมโยงกับกลุ่มนักการเมืองใด


“เนื่องจากเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต ยิงได้แม้กระทั่งเด็ก จริง ๆ ผมไม่อยากได้ตัวเป็น ๆ ด้วยซ้ำไป อยากให้เขาสู้ระหว่างจับกุม ส่วนการดำเนินคดีไม่ต้องห่วงจัดเต็มทุกข้อหา โทษที่ได้รับศาลน่าจะตัดสินประหารชีวิต” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว


ด้าน นายจเร บุตรเติม พ่อตาผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิต กล่าวว่าตอนแรกก็คิดว่าสาเหตุมาจากเรื่องนี้ เพราะลูกเขยเคยมาเล่าให้ฟัง สำหรับบังฟัดผู้บงการก็รู้จักกันและสนิทกัน


loading...
ที่มา:http://www.topicza.com/news45375.html?d=17072017&f=15184

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Recent Post